วิธีการเล่นหรือกฎกติกาการเล่นเกมไพ่บาคาร่านั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด สำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มเล่นบาคาร่านั้น ให้คุณเริ่มจากการเลือกห้องเล่นก่อน พยายามเลือกห้องที่เริ่มเกมมาแล้วประมาณ 20 ตา เพื่อที่คุณนั้นสามารถอ่านสถิติการออกและนำเทคนิคการอ่านเค้าไพ่เข้ามาประยุกต์ใช้ในการเดิมพันได้เลย โดยที่ไม่ต้องรอ
จากนั้นดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้ฝั่งเจ้ามือและฝั่งผู้เล่น เมื่อแจกเสร็จให้เราทำการวางเงินเดิมพัน ว่าฝั่งไหนจะเป็นผู้ชนะ และดีเลอร์จะทำการเปิดไพ่ทีละฝั่ง ถ้าหากฝั่งที่คุณวางเดิมพันเป็นฝั่งชนะก็จำได้เงินรางวัลตามอัตราการจ่ายเงินที่ระบุไว้
แต้มของบาคาร่านับกันยังไง?
เรื่องของการนับแต้มของบาคาร่านั้น อย่างแรกที่คุณควรจะเข้าใจก่อนก็คือการนับไพ่ เกมบาคาร่านั้นจะนับแต้มแค่ 9 แต้มเท่านั้น โดยที่เลข 9 จะเป็นคะแนนสูงสุด ถ้าหากเกินไปกว่า 9 จะนำเอาหลักหน่วยมาแข่งกันแทน ส่วนหน้าไพ่อื่น ๆ จะมีแต้มที่ค่าแตกต่างกันคือ
– ไพ่ A จะมีค่า 1 แต้ม
– ไพ่ 2 – 9 ที่เป็นตัวเลขจะมีค่าตรงตัวเลย เช่น หน้าไพ่ 2 มีค่า 2 แต้ม เป็นต้น
– ไพ่ 10 , J , Q และ K จะมีค่า 0 แต้ม
ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่าผู้เล่นนั้นได้ไพ่ 3 ใบ คือ 4 และ 8 และ J ผลรวมคือ 12 แต่จะใช้หลักหน่วยก็คือ 2 แต่ถ้าผลรวมกันได้ 10 เช่น 4 กับ 6 ผลรวมคือ 10 พอดี คุณก็จะได้ 0 แต้มนั่นเอง
การจั่วไพ่ใบที่ 3
เกมบาคาร่าออนไลน์ในตาแรกดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ให้ฝั่งผู้เล่นและเจ้ามือฝั่งละ 2 ใบก่อน แต่ถ้าหากฝั่งไหนที่ไม่พอใจก็สามารถขอไพ่เพิ่มได้ แต่ก็มีเงื่อนไขในการจั่วไพ่เพิ่มโดยแยกเป็นสองฝั่งก็คือ
การจั่วไพ่ฝั่งเจ้ามือ
การจั่วไพ่ของฝั่งเจ้ามือจะมีการคิดผลรวมของไพ่ 3 ใบ เว็บบาคาร่า ของฝั่งผู้เล่นด้วยว่าสามารถจั่วได้หรือไม่ต้องจั่ว ถ้าหากฝั่งของผู้เล่นมีไพ่ 3 ใบ การจั่วเพิ่มของเจ้ามือ จะมีดังนี้
- ถ้าหากเจ้ามือ มี 3 แต้ม และ ผู้เล่น มี 1-9 และ 0 จะต้องจั่วเพิ่ม
- ถ้าหากเจ้ามือ มี 4 แต้ม และ ผู้เล่น มี 2-7 แต้ม จะต้องจั่วเพิ่ม
- ถ้าหากเจ้ามือ มี 5 แต้ม และ ผู้เล่น มี 4-7 แต้ม จะต้องจั่วเพิ่ม
- ถ้าหากเจ้ามือ มี 6 แต้ม และ ผู้เล่น มี 6-7 แต้ม สามารถจั่วเพิ่มได้
- ถ้าหาก เจ้ามือ มี 6 แต้ม หรือ 7 แต้มขึ้นไป จะไม่จั่วเพิ่ม

การจั่วไพ่ฝั่งผู้เล่น
- หากผู้เล่น มีแต้มมากกว่า 5 นับจาก 6,7,8,9 จะไม่มีการจั่วเพิ่ม
- หากผู้เล่น มีแต้มต่ำกว่า 6 แต้ม นับตั้งแต่ 5,4,3,2,1,0 จะมีการจั่วไพ่เพิ่ม
- กรณีที่ฝั่งของเจ้ามือ มีแต้ม 8-9 จะไม่มีการจั่วเพิ่มเพราะถือว่าฝั่งเจ้ามือเป็นฝ่ายชนะ
อัตราการจ่ายของบาคาร่า
– Player อัตราการจ่ายคือ 1:1 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 110 บาท
– Banker อัตราการจ่ายคือ 1:0.95 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 95 บาท หักให้เจ้ามือ 0.5%
– Player Pair อัตราการจ่ายคือ 1:11 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 1,100 บาท
– Banker Pair อัตราการจ่ายคือ 1:11 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 1,100 บาท
– Perfect Pair อัตราการจ่ายคือ 1:25 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 2,500 บาท
– Any Pair อัตราการจ่ายคือ 1:5 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 500 บาท
– Big อัตราการจ่ายคือ 1:0.5 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 50 บาท
– Small อัตราการจ่ายคือ 1:1.5 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 150 บาท
– Tie อัตราการจ่ายคือ 1:8 สมมุติว่าลงเดิมพัน 100 บาท จะได้กลับมา 800 บาท
– Bonus อัตราการจ่ายของโบนัสจะขึ้นอยู่กับแต้มที่ห่างกันของแต่ละฝั่ง เช่น ถ้าเลือกฝั่ง Player แล้วแต้มที่ออกมา Player คือ 6 แต้ม ส่วน Banker คือ 1 แต้ม ผู้ทายผลจะได้เงินเป็นจำนวนคูณเท่ากับแต้มที่ห่างกันของสองฝั่ง และแต้มที่ห่างกันของ Player กับ Banker คือ 5 แต้ม ถ้าสมมติลงเดิมพัน 100 บาท จะเท่ากับว่าผู้ทายผลจะได้เงิน 500 บาท นั่นเอง
ประยุกต์ใช้เค้าไพ่
สำหรับเกมบาคาร่านั้นจะมีการอ่านสถิติอยู่ ซึ่งส่วนมากเราจะเรียกว่าการอ่านเค้าไพ่นั่นเอง สูตร บา คา ร่า ฟรี โดยจะอ่านได้จากตารางสถิติของเกม ว่ามีลักษณะออกแบบไหนบ้างและจะใช้การเดิมพันแบบไหนเพื่อที่จะได้กำไรสูงสุด โดยที่เค้าไพ่นั้นก็มีอย่างหลากหลายให้คุณได้อ่าน ไม่ว่าจะเป็นเค้าไพ่มังกร เค้าไพ่ตัวตัด เค้าไพ่ปิงปอง และอย่างอื่นอีก พยายามศึกษาเค้าไพ่แต่ละอย่างให้ดี เพราะถ้าหากคุณอ่านเค้าไพ่ผิด คุณก็จะเดิมพันแบบผิด ๆ และจะทำให้โอกาสในการได้เงินเดิมพันของคุณหลุดลอยไปในที่สุด แถมยังเสียเงินเดิมพันอีกตังหาก
และนี่ก็คือข้อมูลของเกมบาคาร่าที่มือใหม่ต้องเรียนรู้ก่อนการเล่น บาคาร่า 888 เพื่อที่จะได้รู้เรื่องก่อนที่เข้าไปเล่นและจะทำให้เข้าใจระบบ ขั้นตอนการเล่น วิธีเล่น ของเกมได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แถมยังเพิ่มโอกาสในการชนะอีกด้วย
